NEWS

01 /

รีวิวการซักกางเกง Indigoskin Basic Series Lot 5 ด้วยน้ำยา Indigoskin Denim Wash

รีวิวการซักกางเกงยีนส์ ด้วยน้ำยา Indigoskin Denim Wash ในครั้งนี้จะไม่เป็นทางการมากนะครับ จะมีเล่าเรื่องราวของการใส่กางเกงตัวนี้ควบคู่ไปด้วย

กางเกง Indigoskin Basic Series Lot 5 ตัวนี้ผ่านการใส่มาเป็นเวลาประมาณ 1 ปี(นับเฉพาะวันใส่จริงเท่านั้น) โดยกิจกรรมหลักๆในช่วงเวลาที่ใส่ตัวนี้ก็คือ การทำงานเป็นวิศวกรอยู่ในโครงการก่อสร้าง แรกเริ่มผมได้รับกางเกงตัวนี้เป็นรางวัลจากการได้ที่ 2 ของ Indigoskin Denim Contest (น่าจะครั้งที่ 3 ครับ) ก็ถือว่าเป็นกางเกงรุ่น Basic Series ตัวที่ 3 ของผม ต่อจาก Lot 1 ,Lot 2 (Lot 3, Lot 4 ผมไม่มีเพราะไปใส่ V-Series แทน)

กิจวัตรประจำวันของผมในช่วงนั้นคือการใส่ทำงานในไซต์ ดังนั้นก็จะค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งการปีนขึ้นนั่งร้าน นั่งตรวจงาน ซึ่งก็จะลุยๆหน่อย ทำให้มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนของเมืองไทยก็ทำให้มีเหงื่อตัวกางเกงจึงเฟดเร็วพอสมควร ข้อดีของการใส่กางเกงทำกิจกรรมที่หลากหลายนั้น คือ ทำให้เราได้รอยเฟดเล็กๆน้อยๆเพิ่มขึ้นมานอกเหนือไปจากรอยเฟดหลักๆตามข้อพับ หน้าขา หลังเข่า ที่ต้องมีมาอยู่แล้ว แต่เราอาจจะได้รอยเล็กๆใต้น่อง หรือข้างกางเกง ที่เกิดจากการเสียดสีกับสิ่งต่างๆขณะทำกิจกรรมนั้นๆ ทั้งหมดนี้มันทำให้รายละเอียดการเฟดนั้นมีมาก และสมบูรณ์กว่าปรกติ



ทีนี้มาว่ากันที่เรื่องการซักดีกว่า ส่วนตัวแล้วผมไม่เคยซักกางเกงยีนส์ด้วยมือ เพราะขี้เกียจ และเชื่อว่าซักเครื่องมันจะครบและสะอาดกว่า ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่คนครับไม่มีผิดถูก ถ้ากางเกงมันใส่มาจนเฟดสวยแล้ว เราจะซักแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น สำหรับตัวนี้ผมซักด้วยเครื่องซักผ้าที่บ้าน โดยใช้นำยา Indigoskin Denim Wash ซึ่งจริงๆแล้วใช้แค่ 1/5 ของขวดต่อการซักกางเกงยีนส์หนึ่งตัว แต่ผมประเมินแล้วว่ากางเกงตัวนี้ของผมใส่มานานมากๆจึงเพิ่มอัตราส่วนเป็น 1/3 ของขวดแทน(ตรงส่วนนี้เราสามารถปรับเพิ่มเองได้แล้วแต่สภาพกางเกงยีนส์ของตัวเอง เนื่องจากน้ำยาไม่ได้ผสมสารเคมีจึงไม่ได้ทำลายเนื้อผ้า หรือกัดสีกางเกงครับ) โดยก่อนนำเข้าเครื่องผมติดกระดุมให้ครบทุกเม็ด และกลับกางเกงเอาด้านในออกมาก่อน



ก่อนซักจะเห็นได้ว่าสีโดยรวมของกางเกงยังมีความเข้มอยู่มาก แต่มีรอยเฟดที่ค่อนข้างตัดกับสีกางเกงนั่นเป็นเพราะกางเกงตัวนี้ถูกใส่ด้วยระยะเวลาที่นาน แล้วไม่เคยโดนน้ำมาก่อนเลย



กางเกงตัวนี้ผมไม่ได้ทำการตัดขาก่อนใส่ ดังนั้นปลายขาจะกองค่อนข้างมาก และเกิดการเสียดสีจนเป็นรอยที่ปลายขา ส่วนตัวผมไม่ได้ทำการจัดปลายขานะครับเพราะไม่ชอบรู้สึกว่ามันไม่สวย ไม่เป็นธรรมชาติ ดังนั้นมันจึงออกมาเป็นแบบนี้



หลังจากปล่อยให้เครื่องทำการซักจนครบรอบ ก็นำออกมากลับด้านตากแดดให้แห้ง จากนั้นนำมาใส่ต่ออีกประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนที่จะนำมาถ่ายรูปรีวิวในครั้งนี้ เนื่องจากส่วนตัวผมว่ากางเกงหลังซักใหม่ๆจะยังซีดขาวไม่ค่อยสวย ต้องเอามาใส่ต่อให้มอมๆอีกนิดแล้วค่อยถ่ายรูป



จะเห็นได้ว่าหลังซักนั้นตัวกางเกงรู้สึกได้ถึงความสะอาดขึ้นมาเลย ส่วนที่มอมๆเหลืองๆอยู่ก็กลับมาขาว ในส่วนของริ้วรอยเฟดนั้น หลังจากที่ครบสกปรกหลุดออกไปก็ทำให้เห็นได้ชัดขึ้น ภาพรวมของตัวกางเกงนั้นยังคงมีสี Indigo ที่เข้มอยู่ไม่ได้ซีดหายไปทั้งตัวเหมือนการใช้ผงซักฟอกทั่วไป ซึ่งสามารถนำไปใส่ปั้นต่อได้สบายๆ(ผมก็คงนำไปใส่ต่อเรื่อยๆ อีกซัก 3-4 เดือนค่อยซักอีกรอบเป็นอันปิดโปรเจ็คตัวนี้ไป)


ก่อนจะจากไปมีแถมอีกนิดหน่อย นั่นคือสาเหตุที่ทำการซักกางเกงตัวนี้ทั้งที่ตอนแรกกะว่าจะไม่ซักไปตลอดก็เพราะว่ากางเกงตัวรุ่นพี่ของมันอย่าง Basic Series Lot 2 ของผมนั้น มันอยู่ในสภาพที่เปื่อย และผ้าบางมากๆแล้ว เรียกว่าจะกระจุยไปได้ทุกเมื่อตอนเอามาใส่ ก็เลยตัดสินใจรีไทร์ตัวนั้นอย่างเป็นทางการ และซัก Lot 5 ตัวนี้มาเอาไว้ใส่แทน สังเกตดูได้ว่ากางเกงพี่น้องสองตัวนี้ สภาพดูแตกต่างกันมากพอสมควร ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะ Lot 2 นั้นเป็นกางเกงที่ใส่สมัยเป็นคนงานซ่อมบ้านที่อเมริกา ส่วน Lot 5 นั้นเป็นกางเกงของวิศวกรก่อสร้างอาคาร ด้วยสภาพชีวิตแต่ละช่วงที่แตกต่างกันทำให้สภาพกางเกง Lot 5 นั้นดูผู้ดีกว่ามากๆ


ในส่วนของสีกางเกงที่บางคนอาจจะแปลกใจว่าด้วยพฤติกรรมการใส่ที่แตกต่างกันนั้น มันทำให้สีกางเกงแตกต่างกันมากขนาดนี้เลยหรือ ก็ต้องบอกว่าจริงๆแล้วมีส่วน แต่ไม่เยอะมาก เพราะแม้ว่า Lot 2 ในรูปนั้นจะสกปรกกว่ามากจริงๆ(เพราะตอนใส่สมัยนั้นลุยมากๆ ผสมปูนเอง ทำอะไรเองหมด) แต่พื้นฐานของผ้านั้นมันเป็นสีอมเหลืองมาอยู่แล้ว อย่างที่คนทั่วไปเรียกว่ากางเกงยีนส์สีสนิม ซึ่งผมมีรูปเปรียบเทียบให้ดูเมื่อเวลาเราพลิกด้านในกางเกงออกมา เราจะเห็นเลยว่าด้านในของกางเกง Lot 2 นั้น เหลืองกว่า Lot 5 อย่างเห็นได้ชัด นั้นจึงเป็นสาเหตุที่เวลากางเกงเฟดออกมาแล้ว Lot 2 จะออกสีสนิม แต่ Lot 5 จะออกฟ้าขาว สำหรับใครที่ชอบกางเกงที่เฟดออกมาเป็นโทนไหนสามารถเลือกดูได้จากตรงนี้ครับ



การรีวิวในครั้งนี้ก็ขอจบลงเพียงเท่านี้ เอาไว้พบกันใหม่ในครั้งหน้าครับ


Pakanat Rekijtisirikul(Tar)

Indigoskin General Manager

share

BACK TO ALL NEWS